วันนี้ (13 พ.ค.65) ที่โรงเรียนแจ้งวิทยา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและประชุมหารือการดำเนินงานเตรียมการเปิดภาคเรียนร่วมกับโรงเรียนเอกชนในจังหวัดสงขลา โดยมี นางสุรียพรรณ์ ณ สงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายวรณัฏฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ตลอดจนส่วนราชการ ผู้บริหารโรงเรียนเอกชนในจังหวัดสงขลา บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนโรงเรียนแจ้งวิทยา ร่วมให้การต้อนรับ
สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดสงขลา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ในฐานะหน่วยงานทางการศึกษา มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ การกำกับ ดูแล นิเทศ ติดตาม การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนเอกชน ปัจจุบัน สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดสงขลามีโรงเรียนเอกชนในกำกับดูแลทั้งจังหวัด จำนวน 570 แห่ง แบ่งออกเป็น โรงเรียนเอกชนในระบบ จำนวน 161 โรง โรงเรียนเอกชนนอกระบบ 4 ประเภท จำนวน 135 โรง ศูนย์การศึกษาอิสลาม ประจำมัสยิด (ตาดีกา) จำนวน 197 ศูนย์ และ สถาบันศึกษาปอเนาะ จำนวน 77 สถาบันและมีสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ จำนวน 4 อำเภอ คือ สำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอจะนะ เทพา สะบ้าย้อยและนาทวี จำนวนครูในโรงเรียนเอกชนในระบบ มีทั้งสิ้น 6,646 คน และจำนวนนักเรียนที่ศึกษาในโรงเรียนเอกชนในระบบ มีทั้งสิ้น 83,009 คน จำนวนผู้สอนในโรงเรียนเอกชนนอกระบบ มีทั้งสิ้น 3,871 คน และจำนวนผู้เรียนในโรงเรียนเอกชนนอกระบบ มีทั้งสิ้น 67,451 คน
ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบาย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 กำหนดให้ปรับสถานการณ์ พื้นที่ทั่วราชอาณาจักรเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 64 จังหวัด และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (สีฟ้า) 12 จังหวัด เป็นผลให้สถานศึกษาทุกระดับสามารถใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเปิดเรียนของภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2565
กระทรวงศึกษาธิการ จึงมีมาตรการรองรับการเปิดเรียนของภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เพื่อจัดการเรียนการสอนแบบ on site ในสถานการณ์โรคโควิด-19 ตามประกาศกระทรวงศึกษามีหลักสำคัญ คือ 1. ผ่านเกณฑ์ประเมินความพร้อมเปิดเรียน TSC+ 2. เคร่งครัดตามมาตรการ 6-6-7 ได้แก่ 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) , 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) และ 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา และยังมีหลักเกณฑ์พิจารณาเตรียมการใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษา ประเภทที่ 1 โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ประเภทพักนอน ประเภทที่ 2 โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ประเภทไป-กลับ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีเป้าหมายให้สามารถปิดการเรียนการสอนแบบ On-site พร้อมกันทุกแห่ง และสร้างความมั่นใจให้แก่นักเรียน ครู ผู้ปกครอง ที่ส่งบุตรหลานมาเรียนและสร้างความไว้วางใจกลับคืนสู่สังคมอีกครั้ง
อีกทั้ง ได้เน้นย้ำให้สถานศึกษาทุกสังกัดเตรียมความพร้อม ตามแนวทางการเฝ้าระวังสำหรับการเปิดเรียน On-site ด้วยหลักการ "ตัดความเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกัน" ทุกสถานศึกษาต้องทำการประเมินตนเองในการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียน -นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ประเมินความเสี่ยงตนเองเป็นประจำ ขณะเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะรณรงค์ให้นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ไปจนถึงนักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้มากที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โควิด-19 ในสถานศึกษาอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ความมั่นใจและความปลอดภัยสำหรับทุกคน
ณิชารีย์ หนูบุญ/ข่าว
วิทยา – จิรพัฒน์/ภาพ
13 พ.ค. 2565
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา