ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ตรวจเยี่ยมกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP ในพื้นที่จังหวัดสงขลา พร้อมรับฟังปัญหา ความต้องการ รวมถึงแนะแนวทางการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เน้นการออกแบบที่ทันสมัย ขายผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น
. วันนี้ (17 เม.ย. 67) เวลา 10.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา นายสงัด พืชพันธุ์ พัฒนาการจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP ในพื้นที่จังหวัดสงขลา พร้อมรับฟังปัญหา ความต้องการ รวมถึงแนะแนวทางการพัฒนา ต่อยอดสินค้าให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เน้นการออกแบบที่ทันสมัย และจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มเพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
. โดยจุดแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้ลงพื้นที่ไปยังกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์บ้านนาออก หรือ “ป้าติ้วแมงโก้” ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์จากมะม่วงเบาที่เกิดจากชาวบ้านรวมตัวกันของชาวบ้านตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เมื่อปี พ.ศ. 2547 และได้จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2549 โดยผลิตภัณฑ์แรกที่เริ่มทํา คือ มะม่วงแช่อิ่ม และได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากมะม่วงมาเรื่อยๆ อาทิ นํ้ามะม่วงเบาพร้อมดื่ม แยมมะม่วง มะม่วงเบาแช่อิ่ม ไอศกรีมมะม่วงเบา น้ำพริก และมะม่วงอบแห้ง โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้ามาสนับสนุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เข้าสู่ระบบธุรกิจ สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและให้มีการผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง
. จากนั้น นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มาตรวจเยี่ยมกลุ่มโกเมนทร์บาติก ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านดอนคันเหนือ ตำบลคูขุด อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา โดยมีนายโกเมนทร์ ทองพรหม เป็นประธานกลุ่ม สำหรับกลุ่มโกเมนทร์บาติกนั้น เป็นผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ซึ่งทางกลุ่มได้นำภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยใช้ใบตาลโตนดมาเป็นแม่พิมพ์และใช้สีจากธรรมชาติมาใช้ย้อมผ้า ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาพัฒนาต่อยอดเพื่อให้ได้ลวดลายที่ไม่ซ้ำกันของแต่ละชิ้นงาน อีกด้วย
. ในเวลาต่อมา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เดินทางไปยังวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปข่าตาแดงบ้านเลียบ ตำบลท่าช้าง อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ซึ่งได้ก่อตั้งกลุ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2562 โดยทำกิจกรรมปลูกข่าเพื่อจำหน่าย ต่อมาต้องการขยายกิจการจึงได้กู้เงินทุนหมุนเวียนจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดสงขลา เมื่อปี 2562 จํานวน 200,000 บาท และส่งเงินคืนครบตามกำหนด จากการดำเนินกิจการดังกล่าวทำให้เกิดมีรายได้มากขึ้นและมีลูกค้าต้องการเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทำให้ปัจจุบันทางกลุ่มมีสมาชิก 32 คน มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อาทิ ข่าแดง ข่าเหลือง น้ำข่า ไตปลา ชาหัวข่า ชาดอก ยาหม่อง และน้ำมันเหลืองเศษข่า
. หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เดินทางไปยังทัณฑสถานหญิงสงขลา อำเภอเมืองสงขลา เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์หัตถกรรมฝีมือผู้ต้องขังหญิง ที่ผ่านการฝึกอบรมจากวิทยากรที่มีทักษะความชำนาญ จนปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้า และผ้าทอต่างๆ ในรูปแบบต่างๆ อาทิ ผ้าขาวม้า ผ้าทอ ผ้าถุง กล่องกระดาษทิชชูจากผ้าขาวม้า กระเป๋าผ้าขาวม้า รองเท้าผ้าขาวม้า ผ้าพันคอเทโร เป็นต้น
. โดยนางรัศมี สุวรรณหงส์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงสงขลา ได้กล่าวว่า ทัณฑสถานหญิงสงขลา ได้ฝึกวิชาชีพทอผ้าให้กับผู้ต้องขังหญิงครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.2526 โดยเริ่มต้นจากการทอผ้าขาวม้า เพื่อปรับพฤติกรรมให้ผู้ต้องขังใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ฝึกสมาธิ คลายความกังวล เนื่องจากกระบวนการผลิตผ้าแต่ละผืน ได้เปิดโอกาสทางความคิดให้ผู้ต้องขังสามารถออกแบบลวดลายด้วยตนเอง ซึ่งจะทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจในงานฝีมือที่ได้ทำ อีกทั้งยังเป็นการฝึกวิชาชีพให้แก่ผู้ต้องขังให้มีคุณภาพ สร้างความแตกต่างให้มีลักษณะโดดเด่น ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายสินค้า จะนำไปจ่ายเป็นเงินรางวัลปันผลให้กับผู้ต้องขัง ทำให้ผู้ต้องขังมีรายได้ระหว่างต้องโทษ และทัณฑสถานหญิงสงขลาก็จะมีเงินหมุนเวียน นับว่าเป็นการลดค่าใช้จ่ายของรัฐ และยังเป็นการให้กำลังใจแก่ผู้ต้องขัง และต่อยอดในการออกไปใช้ชีวิตภายหลังพ้นโทษ อีกด้วย
ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว
ทีปรกร -อดุลย์ /ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
17 เม.ย. 67