แขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 ชี้แจงกรณีสื่อนำเสนอทำให้สังคมเคลือบแคลงใจในการปฏิบัติหน้าที่ และการบังคับใช้กฎหมายกับผู้นำสิ่งของมาวางกีดขวางรุกล้ำเขตทางหลวง

แขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 ชี้แจงกรณีสื่อนำเสนอทำให้สังคมเคลือบแคลงใจในการปฏิบัติหน้าที่ และการบังคับใช้กฎหมายกับผู้นำสิ่งของมาวางกีดขวางรุกล้ำเขตทางหลวง

        จากประเด็นที่สื่อนำเสนอ ทำให้สังคมเคลือบแคลงใจในการปฏิบัติหน้าที่ และการบังคับใช้กฎหมายกับผู้นำสิ่งของมาวางกีดขวางรุกล้ำเขตทางหลวง โดยใช้กฎหมายสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติติเฉพาะราย ซึ่งส่งผลเสียหายความเชื่อมั่นต่อภาครัฐได้ แขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

        ตามที่ แขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 ได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านระบบ “ร้องเรียนร้องทุกข์กรมทางหลวง” จำนวน 3 ครั้ง จาก ประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านจัดสรร ริมถนนกาญจนวนิช ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แจ้งว่า มีการวางป้ายโฆษณาและซุ้มขายของ บดบังทัศนวิสัยการเข้า-ออกหมู่บ้าน ซึ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุบริเวณดังกล่าวบ่อยครั้ง โดยแต่ละครั้งเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 ได้ดำเนินการแจ้งเตือนด้วยวาจาและขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการร้านค้าที่รุกล้ำเขตทางหลวงรื้อย้ายซุ้มและป้ายโฆษณาออกจากแนวเขตทาง เพื่อไม่ให้บดบังทัศนวิสัยในการเข้า-ออกหมู่บ้าน เมื่อไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้รุกล้ำ จึงได้แจ้งเตือนเป็น “ประกาศแขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 ว่าด้วยเรื่องรุกล้ำเขตทางหลวง” ซึ่งหลายๆ ราย ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ต่อมาช่วงเดือนมกราคม 2566 แขวงฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านทางโทรศัพท์ แจ้งว่าบริเวณดังกล่าวได้มีการกลับมาตั้งซุ้มและป้ายบดบังทัศนวิสัยการเข้า-ออกหมู่บ้านดังเดิม เนื่องจากการรุกล้ำดังกล่าวก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อผู้ใช้ทาง และผู้เข้า-ออกหมูบ้านอีกหลายหลังคาเรือน เจ้าหน้าที่แขวงฯ จึงได้มีการแจ้งเตือนด้วยวาจาอีกครั้ง จึงเป็นเหตุทำให้ผู้รุกล้ำบางรายเกิดความไม่พอใจ

        ทั้งนี้ แขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 ได้มีการแจ้งเตือนผู้กระทำการรุกล้ำเขตทางหลวงบริเวณอื่นๆ อย่างเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนเบื้องต้นด้วยวาจา หรือแจ้งเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย “ประกาศแขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 ว่าด้วยเรื่องรุกล้ำเขตทางหลวง” ซึ่งไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติหน้าที่กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด เนื่องจากกการรุกล้ำแต่ละกรณีก่อให้เกิดความเสียหายแตกต่างกัน แขวงฯ จึงมุ่งเน้นที่จะแก้ไขปัญหาบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยงและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุเป็นลำดับต้นๆ โดยทุกบริเวณที่มีการรุกล้ำก็จะต้องมีการรื้อถอนเช่นกัน

        อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องการรุกล้ำเขตทาง ยังคงเป็นปัญหาที่แขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 พยายามแก้ไข แต่ก็ยังไม่สำเร็จ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาปากท้องของประชาชน จึงต้องมีการใช้ทั้งหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์เข้ามาร่วมในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ปัญหาการรุกล้ำเขตทางหลวงจะไม่เกิดขึ้น หากประชาชนตระหนักและถือปฏิบัติตามกฎหมายแห่งพระราชบัญญัติทางหลวงตามมาตรา 38 “ห้ามมิให้ผู้ใดติดตั้ง แขวน วางหรือกองสิ่งใดในเขตทางหลวงในลักษณะที่เป็นการกีดขวางหรืออาจเป็นอันตรายแก่ยานพาหนะ หรือในลักษณะที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางหลวง หรือความไม่สะดวกแก่งานทาง เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้อำนวยการทางหลวงหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการทางหลวงในการอนุญาต ผู้อำนวยการทางหลวงหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการทางหลวงจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดก็ได้”

        มาตรา 47 “ห้ามมิให้ผู้ใดสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดในเขตทางหลวง หรือรุกล้ำเข้าไปในเขตทางหลวง เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้อำนวยการทางหลวงหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการทางหลวง ในการอนุญาต ผู้อำนวยการทางหลวงหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการทางหลวงจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดก็ได้ รวมทั้งมีอำนาจกำหนดมาตรการในการจัดการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม การป้องกันอุบัติภัย และการติดขัดของการจราจรด้วย” โดยเคร่งครัด


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar
บทความที่น่าสนใจ